Financial Planning 4.0
ตั้งแต่โลกใบนี้ถือกำเนิดขึ้นมาในจักรวาลก็หมุนรอบตัวเองอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ ส่งผลทำให้โลกใบนี้หมุนผ่านยุคต่างๆ มาแล้วมากมาย
เริ่มต้นตั้งแต่โลกในยุคเกษตรกรรม 1.0 เดินทางข้ามกาลเวลาเข้าสู่โลกในยุค 2.0 ที่เริ่มต้นด้วยการปฏิวัติอุตสาหกรรม และมีการพึ่งพาระบบอิเล็กโทรนิคส์มากขึ้นในโลกยุค 3.0
กระทั่งปัจจุบันที่โลกนี้ก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 IoT Internet of Things หรืออินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง กลายเป็นโลกที่หาเส้นแบ่งพรมแดนแบ่งกั้นขอบเขตของแต่ละประเทศแทบไม่เจอ ส่งผลทำให้ภัยต่างๆ รวมทั้งวิกฤตเศรษฐกิจที่คุกคามประเทศใดประเทศหนึ่งสามารถส่งผลกระทบไปยังอีกประเทศหนึ่งที่อยู่คนละขอบฟ้าแทบจะทันทีทันใด
รูปแบบการใช้ชีวิตแบบสังคมเมืองพบเห็นได้ทั่วไปในสังคมชนบท กลายเป็นสังคมที่ทุกคนต่างคนต่างอยู่ และกลายเป็นคนที่แทบจะไร้ตัวตนในโลกแห่งความเป็นจริง ฝังทั้งชีวิตและจิตวิญญาณไว้ในโลกดิจิตอล มีเพื่อนอยู่ในโลกดิจิตอล พูดคุยกับเพื่อนในโลกดิจิตอล สะสมความมั่งคั่งไว้ในอากาศ กลายเป็นสังคมไร้เงินสด และแม้กระทั่งจัดงานศพและกราบไหว้บรรพบุรุษ บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผ่านระบบดิจิตอล
โลกในยุค 4.0 ทำให้ทุกชีวิตต้องดิ้นรนขวนขวายหาเงินมาตอบสนองความต้องการและความจำเป็นตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง 7 วันในสัปดาห์อย่างต่อเนื่องทุกเดือนทุกปี
ตื่นเช้ามาล้างหน้าแปรงฟันก็ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟ รีบเร่งขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ที่คนขับเป็นคนแปลกหน้าเพื่อไปเข้างานให้ทันเวลาก็ต้องจ่ายค่าเดินทาง ระหว่างวันต้องจ่ายทั้งค่าอาหารเช้า กลางวันและเย็น ซึ่งบางครั้งเพียงแค่ค่าน้ำดื่มดับกระหายระหว่างวันก็แพงกว่าค่าอาหารและค่าน้ำมัน
แม้กระทั่งยามหลับตานอนไม่รู้ตัวก็ยังต้องจ่ายค่าแอร์และค่าไฟฟ้า เพราะต้องนอนปิดประตูและหน้าต่างพร้อมกับเปิดไฟให้ส่องสว่างรอบบ้าน เพื่อป้องกันภัยจากโจรขโมยที่อยู่ปะปนกับคนข้างบ้านที่เราอาจไม่รู้จัก ไม่เคยพูดคุย รวมไปถึงค่าโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตแพ็กเกจรายเดือนที่ไม่ว่าจะไม่ได้ใช้ หรือใช้เพียงบางส่วนก็ต้องจ่ายเงินเต็มแพ็กเกจ เพราะอาจทบไปใช้ต่อเดือนหน้าไม่ได้
คุณเคยคำนวณไหมว่าค่าใช้จ่ายยุค 4.0 ในแต่ละวันแต่ละเดือนแต่ละปีรวมแล้วเป็นจำนวนเงินเท่าไร แล้วยิ่งถ้าลองคูณด้วยอายุขัยที่เหลืออยู่ท่ามกลางยุค 4.0 ที่ความก้าวหน้าทางการแพทย์และโภชนาการ อาจทำให้มนุษย์ตายหลังจากลืมตามาดูโลกใบนี้ผ่านไปเป็นศตวรรษ เห็นคำตอบแล้วบางคนอาจต้องการย้อนกลับไปอาศัยอยู่ในยุคหินโครมันยองที่อายุขัยสั้นเพียงแค่ไม่ถึง 20 ปี
จำนวนเงินที่ต้องใช้มากมายมหาศาลกลับสวนทางกับรายได้ที่หาได้ในยุค 4.0 ที่ความก้าวหน้ามาพร้อมกับ Disruptive Technology ที่ AI (Artificial Intelligence) พร้อมจะกวาดล้างอาชีพและองค์กรที่ตั้งตระหง่านมานานนับร้อยๆ ปีให้มลายหายไปในเวลาเพียงพริบตาเดียว
คนไทยในยุค 4.0 จึงต้องเรียนรู้ที่จะวางแผนการเงินตั้งแต่การหารายได้จากการทำงานด้วยการหาลู่ทางที่จะพัฒนางานที่ทำอยู่ให้มีความมั่นคง โดยหมั่นเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ลงไปในทุกขั้นตอนนอกเหนือไปจากทักษะทั่วไป เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบดิจิตอลเข้ามาแทนที่
คนไทยในยุค 4.0 จึงต้องเรียนรู้ที่จะวางแผนการเงินให้ความมั่งคั่งที่สร้างมาอย่างยากลำบากไม่หายไปในพริบตา ด้วยความต้องการใช้จ่ายที่ถูกทำให้เกิดความอยากได้อย่างง่ายดายผ่านการกระตุ้นกิเลสด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดและโปรโมชั่นที่นำเสนอตลอด 24 ขั่วโมงผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆในโทรศัพท์มือถือ ท่องคาถาไว้ว่า ‘จำเป็นหรือต้องการ’ ทุกครั้งที่คุณกำลังจะซื้อสินค้าหรือบริการเสมอ
คนไทยในยุค 4.0 จึงต้องเรียนรู้ที่จะเพิ่มแหล่งรายได้จากการลงทุนนอกเหนือจากรายได้จากหน้าที่การงาน เพื่อต่อยอดความมั่งคั่งให้มีเงินเพียงพอใช้ตลอดอายุขัยหลังเกษียณ ซึ่งรายได้จากการทำงานเพียงลำพังอาจไม่เพียงพอ พันธบัตร หุ้นกู้ หุ้นสามัญ ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมอาจเป็นตัวช่วยต่อยอดความมั่งคั่งที่ทุกคนต้องรู้จักราวกับว่าเป็นเพื่อนสนิทที่คุ้นเคย
คนไทยในยุค 4.0 จึงต้องเรียนรู้ไม่ให้อุบัติเหตุหรือโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่ระบาดทั่วโลกได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วมาทำลายความมั่งคั่งที่สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อและแรงใจ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ บ้าน สุขภาพ และกรมธรรม์ประกันชีวิตสำหรับคนไทยในยุค 4.0 จึงอาจต้องเข้ามาทำหน้าที่แทนยันต์คุ้มภัยที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีตั้งแต่ยุค 1.0 รวมทั้งคนไทยในยุค 4.0 ที่กรมสรรพากรสามารถจับติดทุกความเคลื่อนไหวทางการเงิน จึงต้องเรียนรู้ที่จะทำการวางแผนภาษี เพื่อลดภาระภาษีให้น้อยที่สุดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
การปฏิวัติงานที่ทำด้วยความคิดสร้างสรรค์ การรู้จักกันความต้องการออกจากความจำเป็น การวางแผนประกัน การวางแผนภาษี การวางแผนการลงทุน และการวางแผนเกษียณ จึงเป็นการวางแผนการเงินที่จะทำให้คนไทยในยุคนี้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
ผู้เขียน ดร.ธนาวัฒน์ สิริวัฒน์ธนกุล
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภาควิชาการเงิน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกรรมการสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ผู้เขียนหนังสือ รวยเงินรวยสุข บันไดเลื่อนสู่ความร่ำรวย และอยากรวยต้องรู้ธรรม