สามมิติแห่ง การลงทุน ต่อยอดความมั่งคั่ง
คนไทยในยุค 4.0 ที่ Disruptive Technology กำลังพัดเข้ามาทำลายล้างการดำเนินธุรกิจในรูปแบบเดิมๆ ภายในเวลาเพียงแค่ชั่วข้ามคืน
ส่งผลทำให้เกิดความสั่นคลอนต่อรายได้จากการทำงาน รวมไปถึงการแข่งขันอย่างรุนแรงที่ทำให้รายได้จากการทำงานในองค์กรที่ยังดำเนินธุรกิจแบบเดิมๆ เพิ่มขึ้นในอัตราที่อาจต่ำอัตราเงินเฟ้อ รายได้จากการลงทุนจึงเป็นทางรอดหนึ่งที่จะทำให้เรามีความมั่งคั่งอย่างมั่นคง
รูปแบบการลงทุนเพื่อต่อยอดความมั่งคั่งสำหรับนักลงทุนที่ไม่เน้นความหวือหวาไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยงในการลงทุนที่สูงมาก และพร้อมที่จะมีระยะเวลาให้เงินทำงานได้อย่างเต็มที่ อาจพิจารณาจากแนวทางพีระมิดการลงทุนใน 3 มิติดังนี้ครับ
1. ซื้อถูก การลงทุนในหุ้นสามัญเปรียบเสมือนกับการที่นักลงทุนจะไปร่วมหุ้นลงทุนเป็นเจ้าของร่วมดำเนินกิจการ โดยที่อาจจะไม่จำเป็นต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญเข้าไปบริหารกิจการจริงๆ ดังนั้น นักลงทุนจึงควรมีความรู้ความเข้าใจเบื่องต้นในการดำเนินกิจการของหุ้นสามัญดังกล่าวว่าจะมียอดขายในอนาคตซึ่งส่งผลทำให้บริษัทมีกำไรมาแบ่งเป็นเงินปันผลให้กับนักลงทุนได้มากน้อยเท่าไร แล้วเปรียบเทียบว่าเงินที่ต้องจ่ายลงทุนเท่ากับราคาหุ้นสามัญที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯน้อยกว่าหรือมากกว่าเงินปันผลทั้งหมดที่จะได้รับคืนมาในอนาคต
อย่างไรก็ตามการลงทุนในยุค 4.0 นักลงทุนสามารถหาข้อมูลการคาดการณ์เงินปันผลที่จะได้รับคืนมาทั้งหมดในอนาคตจากบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ที่จะเผยแพร่มูลค่าที่แท้จริงของหุ้นสามัญให้โดยที่นักลงทุนไม่ต้องไปเก็บรวบรวมข้อมูลและคำนวณเอง แล้วนำมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นสามัญดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับราคาของหุ้นสามัญดังกล่าวที่ซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยควรจะตัดสินใจลงทุนในหุ้นสามัญที่มีราคาถูก นั่นคือว่าราคาที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯควรจะต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเองก็ควรติดตามข่าวสารเพื่อให้สามารถคัดเลือกหุ้นสามัญที่เป็นกิจการที่มีความมั่นคง มีสถานะการเงินที่ดี มีความสามารถในการทำกำไรในอนาคต และมีผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพในการบริหารกิจการเป็นอย่างดี แต่ต้องระวังว่าหุ้นของกิจการที่ดีบางบริษัทอาจมีราคาที่สูงจนเกินกว่ามูลค่าที่แท้จริง ทั้งนี้เบนจามิน เกรแฮม ซึ่งเป็นปรมาจารย์ในการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ได้ให้คำแนะนำในการคัดเลือกหุ้นลงทุน โดยกำหนดว่าราคาซื้อขายนั้นควรต่ำกว่า 2 ใน 3 ของมูลค่าทางบัญชี
2. จับจังหวะ การลงทุนในหุ้นสามัญที่ต้องการซื้อหุ้น (ราคา) ถูกและ (มีสถานะการเงินและผลการดำเนินงาน) ดี นักลงทุนมักไม่เน้นลงทุนในหุ้นที่อยู่ในกระแสข่าว หรือหุ้นที่นักลงทุนจำนวนมากในตลาดให้ความนิยม เนื่องจากหุ้นเหล่านั้นมักมีราคาตลาดที่สูงเต็มมูลค่า หรือสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง ในทางตรงกันข้ามนักลงทุน อาจเลือกหุ้นที่ถูกและดีแล้วรอจังหวะลงทุนที่หุ้นดังกล่าวได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดที่มีความผันผวนมากๆ ซึ่งส่งผลทำให้นักลงทุนจำนวนมากแตกตื่นพากันเทขายหุ้น จนทำให้ราคาหุ้นของกิจการบางแห่งที่มีผลการดำเนินงานที่ดีปรับตัวลดลงต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง บางครั้งจังหวะการลงทุนที่ดีก็อาจมีลักษณะที่สวนทางกับตลาดโดยรวม (Contrarian)
3. ขายแพง หลังจากนักลงทุนคัดเลือกหุ้นที่ดีและรอซื้อในจังหวะที่ถูกแล้วก็อาจต้องใจเย็นรอราวกับนักตกปลาที่ต้องรอให้ปลาตัวใหญ่มาติดเบ็ด โดยอาจต้องรอให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้หรือสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริงเป็นปีๆ เนื่องจากจะต้องรอให้นักลงทุนทั่วไปเห็นแจ้งประจักษ์จริงถึงผลดำเนินงานที่แข็งแกร่งของกิจการ อันจะนำไปสู่ยอดขาย ผลกำไร และเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอในที่สุด และเมื่อวันนั้นมาถึงเมื่อนักลงทุนทั่วไปมีข้อมูลที่ครบถ้วนก็จะหันมาให้ความสนใจกับหุ้นของกิจการดังกล่าว ส่งผลทำให้ราคาหุ้นปรับตัวแพงขึ้น และนำมาสู่อัตราผลตอบแทนที่สูงและคุ้มค่ากับการรอคอย
AUTHOR :
ดร.ธนาวัฒน์ สิริวัฒน์ธนกุล
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภาควิชาการเงิน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกรรมการสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ผู้เขียนหนังสือ รวยเงินรวยสุข บันไดเลื่อนสู่ความร่ำรวย และอยากรวยต้องรู้ธรรม